วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Blu-Ray VS PMPs

เห็นชื่อหัวข้อ Blog นี้ก็งง ๆ เหมือนกัน .......แต่เป็นสิ่งที่น่าในใจ
ความเป็นมาของหัวข้อนี้ ...... ได้เป็นกรรมการตรวจรับงานนิทรรศการถาวร งานหนึ่่งมา
........ มีอาจารย์ที่เป็นกรรมการท่านหนึ่งถามขึ้นในที่ประชุมว่า ตอนนี้ผู้รับจ้างขอปรับเปลี่ยนจากเครื่องเล่น Blu-ray Disc มาเป็นเครื่องเล่นแบบ PMPs ที่ประชุมมีความเห็นว่าจะอนุญาตให้เขาเปลี่ยนได้หรือไม่ เพราะเหตุผลอะไร อธิบายได้หรือไม่
........ เพราะต้องยอมรับก่อนว่า การจัดจ้างนิทรรศการครั้งนี้ มีสิ่งแปลกอย่างหนึ่งคือ เราให้ผู้รับจ้างเป็นคนออกแบบ และเสนอราคาประมูล ว่ากรรมการตรวจรับยอมรับได้หรือไม่ โดย TOR มีเพียงไม่กี่ข้อ เช่นที่เห็นเด่นชัดคือ ต้องมีความเป็นล้านนา ต้องมีความเป็นสิ่งเดียวอันเดียว ไม่มีใครเหมือน ก็ได้รับข้อเสนอของบริษัทหนึ่งขึ้นมา
..........การทำงานก็เริ่มตั้งแต่ 5 กรกฎาคม เป็นต้นมา บริษัทก็เสนอมาทั้งศิลปะ ทั้งบทวิชาการ ทั้งรูปแบบนิทรรศการ แต่ก็สงสารอยู่อันหนึ่งคือ บริษัทต้องทำให้ทั้งหมดในทุกรูปแบบ กรรมการมีหน้าที่เพียงรับหรือไม่รับ ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาทั้งกรรมการตรวจรับ และบริษัทผู้รับจ้าง
..........ย้อนกลับมาที่ข้อคำถามของอาจารย์กรรมการท่านหนึ่งที่เอ่ยขึ้นมา แล้วที่ประชุมก็โยนมาที่ผม ให้ไปหาคำตอบมา แล้วก็จะอนุมัติให้บริษัทผู้รับจ้างดำเนินการต่อไป ก็ได้ข้อมูลมาเผื่อเป็นประโยชน์ต่อใครที่ต้องการทราบ โดยผมก็ได้พยามยามรวบรวมความรู้ที่มีอยู่เกี่ยวกับทั้งสองเทคโนโลยี และแหล่งอ้างอิง ที่มีผู้กล่าวไว้ ดังนี้


Blu-ray หนึ่งในตัวเลือกเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาแทน DVD (อ้างอิงจาก http://www.pantip.com/tech/article/article.php?id=116)
.......1-2 ปีที่ผ่านมาจะได้ยินเรื่อง Blu-ray บ่อยมาก จนเกิดการสงสัยว่ามันคืออะไร Blu-ray คืออะไร
Blu-ray หรือ Blu-ray Disc (BD) เป็นชื่อของเทคโนโลยีมาตรฐานใหม่สำหรับออฟติคอลดิสก์ ที่ถูกผลักดันให้มาแทนมาตรฐาน DVD ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดย Blu-ray นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาให้สามารถบันทึกข้อมูลวิดีโอรายละเอียดสูง high-definition video (HD) หรือใช้เก็บไฟล์ข้อมูลได้มากกว่า DVD หลายเท่าตัว ซึ่ง Blu-ray แบบ single-layer นั้นจะมีเนื้อที่เก็บข้อมูล 25GB ส่วนแบบ double-layer นั้นจะเก็บข้อมูลได้สูงถึง 50GB เลยทีเดียว โดยจะช่วยให้ภาพยนตร์ต่างๆที่ถูกบันทึกลงแผ่นดิสก์ Blu-ray นั้นมีรายละเอียดต่างๆทั้งด้านภาพ และเสียงสูงกว่า DVD ขึ้นไปอีก ส่วนที่มาของชื่อ Blu-ray นั้นจะมาจากการที่ใช้แสงเลเซอร์สีน้ำเงิน-ม่วงในการอ่านและเขียนแผ่นดิสก์ แทนการใช้แสงเลเซอร์สีแดงเหมือนกับ DVD ซึ่งแสงเลเซอร์สีน้ำเงิน-ม่วงนั้นจะมีความยาวของคลื่น 405nm ที่สั้นกว่าแสงเลเซอร์สีแดงที่มีความยาวคลื่น 650nm ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลลงไปในแผ่นดิสก์ได้มากขึ้นในเนื้อที่เท่าเดิม โดยว่ากันคร่าวๆแล้ว Blu-ray จะสามารถเก็บวิดีโอความละเอียดสูงได้นานถึง 9ชั่วโมงในแผ่นดิสก์แบบ double-layer และสามารถเก็บไฟล์วิดีโอที่บีบอัดตามมาตรฐานที่ใช้ใน DVD ปัจจุบันนี้ได้นานต่อเนื่องถึง 23ชั่วโมงเลยทีเดียว รวมถึงบันทึกความละเอียดสูงด้วยมาตรฐานใหม่ๆได้ด้วย
ใครเป็นผู้พัฒนามาตรฐาน Blu-ray?
Blu-ray เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาโดย Blu-ray Disc Association (BDA) กลุ่มสมาคมที่เป็นการรวมตัวระหว่างบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า, บริษัทด้านไอทีรายยักษ์ รวมถึงสตูดิโอภาพยนตร์ และบริษัทในวงการอื่นๆ เช่น Apple Computer, Inc., Dell Inc., Hewlett Packard Company, Hitachi, Ltd., LG Electronics Inc., Matsushita Electric Industrial Co., Ltd., Mitsubishi Electric Corporation, Pioneer Corporation, Royal Philips Electronics, Samsung Electronics Co., Ltd., Sharp Corporation, Sony Corporation, TDK Corporation, Thomson Multimedia, Twentieth Century Fox, Walt Disney Pictures, Warner Bros. Entertainment ซึ่งแน่นอนบริษัทเหล่านี้จะร่วมกันผลักดันมาตรฐาน Blu-ray ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดแน่ๆเพื่อที่จะผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยี Blu-ray ออกมาจำหน่าย เช่น Sony ก็จะนำ Blu-ray ไปใช้กับเครื่องเล่นเกม PlayStation 3 ที่จะส่งออกจำหน่ายในเร็วๆนี้
นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆสำหรับ Blu-ray ครับแต่แน่นอน Blu-ray ไม่ใช่เป็นตัวเลือกของมาตรฐานใหม่ที่จะมาแทน DVD ในขณะนี้แน่ๆ มาตรฐานอีกมาตรฐานที่มีการส่งเข้าต่อสู้ในตลาดนั้นจะเป็น HD-DVD ที่พัฒนาโดย Toshiba และ NEC ซึ่งจะมีข้อดีกว่าตรงที่อุปกรณ์ต่างๆนั้นจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า Blu-ray แต่ก็จะมีความจุข้อมูลที่น้อยกว่าเช่นกัน เนื่องจากยังใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีแดงในการอ่าน และเขียนข้อมูลอยู่ ก็คงต้องรอดูกันสักพักว่าเทคโนโลยีของค่ายไหนที่จะมาแรงกว่ากัน และขึ้นแท่นแทน DVD ได้ในที่สุด
เครื่องเล่น Hard Disk MEDIA หรือ Hard Disk Player
Portable media player อุปกรณ์ที่ถูกเรียกว่าเป็น PMP ส่วนใหญ่จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. เป็นเครื่องพกพาที่เล่นได้หลากหลาย
2. สามารถ เล่นไฟล์ดิจิตอลได้หลายกหลาย เช่น image digital file, audio digital file, video digital File ยกตัวอย่างเช่น jpg, mpeg, divx, xvid, MP3, MP4, MP5, AVI หรือ wma ได้
3. สามารถ เล่นเพลงและแสดงรูปภาพได้
4. สามารถบันทึกภาพจากกล้อง โดยไม่ต้องต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ได้
5. มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลพวก Hard Disk
Wikipedia (http://en.wikipedia.org/wiki/Portable_media_player) ได้กล่าวถึงเครื่องเล่นสื่อแบบพกพา (PMP) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสามารถในการเก็บและการเล่นสื่อดิจิตอล เช่น เสียง ภาพวิดีโอ เอกสารและอื่น ๆ เป็นต้น Digital Audio Player (DAP) ที่สามารถแสดงภาพและวิดีโอเล่น เราจะเรียก PMPs อุปกรณ์ DAPs ประเภทนี้ข้อมูลปกติจะเก็บไว้ใน hard drive, micro drive, flash memoryหรือ Electronics Devices เช่นโทรศัพท์มือถือ Internet Tablets และ Digital Camera ซึ่งบางครั้งยังเรียกว่าเป็น PMPs Compatible เพราะความสามารถการเล่นได้เช่นเดียวกับอุปกรณ์ PMP
ปัจจุบันเทคโนโลยี PMP ก็ได้รับการพัฒนาไประดับหนึ่งและมีราคาที่ถูกลงเนื่องจากสื่อมีความจุมากขึ้นและมีราคาที่ถูกลง ปัจจุบันมีสินค้ามากหลากหลายให้เลือกในตลาด
ความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี Blu-ray กับ PMPs
ความแตกต่างระหว่างสองเทคโนโลยีนี้เคยมีคนถามไว้ในเว็บไซต์ Pantip.com (อ้างอิงจาก http://forum.thaidvd.net/index.php?showtopic=119273) มีผู้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
PMPs สามารถทำการดูหนังที่เป็นแบบ Full Rip เป็นอย่างมาก ได้ทั้งเสียง HD แล้วก็เพิ่มซับไทยได้ด้วยซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ดีกว่าเครื่องเล่นแผ่น BD ในส่วนของภาพเท่าที่เคยดู ถ้าราคาเครื่องเล่น BD ที่ราคาใกล้เคียงกับ DVICO ภาพมันก็ไม่ต่างกันมาก (DVICO สามารถ update Firmware ได้และออกมาใหม่เรื่อยๆ) และข้อเสียของเครื่องเล่นแผ่นเนี่ยมันก็คือแผ่นมันยังแพงอยู่ครับ ถ้าเล่น DVICO น่าจะคุ้มค่ามากกว่าแล้วรอให้แผ่นมันถูกกว่านี้
ขณะที่อีกท่านหนึ่งให้ความเห็นไว้ว่า
1. เทคโนโลยีทั้งสอง ใช้ media คนละประเภทกัน Dvico อ่านไฟล์ที่ริปมาจากแผ่น ข้อดีคือส่วนมากโหลดมาไม่ต้องซื้อ และก็อ่านไฟล์ได้หลายสกุล ข้อเสียคือต้องรอให้มีคนเอามาปล่อย
BD Player เล่นแผ่น ข้อดีคือบางครั้งไม่ต้องรอไฟล์ เจอก็ซื้อได้เลยหรือพอออกมาก็มีดูตั้งแต่วันแรกที่ออก ข้อเสียคือแผ่นมันยังแพงอยู่
2. คุณภาพของภาพที่ได้ Dvico เล่น Fullrip ได้ภาพดีเกือบเทียบเท่า BD Player (เคยเทียบแล้ว ภาพเล่นจากไฟล์ สู้เล่นจากแผ่น(US)ไม่ได้) ยิ่งถ้าเทียบกับ BD Player พวก Oppo BD83 หรือ Pioneex LX71/91
3. BD Player รองรับ BD Live และบางตัวมี Internal Decoder (True-HD/DTS-HD/MA) ด้วย แต่ Dvico ทำไม่ได้ ถ้าไม่ห่วงเรืองภาพว่าต้องเริดสุดๆ มี BD Player อีกหลายตัวที่เล่น MKV ไฟล์ได้ด้วย (Oppo ถูกจำกัดด้วย USB-FAT32 ทำให้รองรับได้ไม่สมบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น: